วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

วัดบูรพาราม พระอารามหลวง จ.สุรินทร์

        หน้าวัดบูรพาราม จ.สุรินทร์











                                                                                                             พระอุโบถ

ประวัติวัดบูรพาราม


          วัดบูรพาราม ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองสุรินทร์ หากถือเอาคูเมืองและกำแพงเมืองโบราณเป็นบรรทัดฐาน ก็จะมองเห็นที่ตั้งของวัดสำคัญๆ ในเมืองสุรินทร์ได้ดังนี้ขณะที่วัดจุมพลสุทธาวาส วัดพรหมสุรินทร์ วัดหนองบัว วัดจำปา และวัดศาลาลอย ถือได้ว่าเป็นวัดนอกตัวเมือง ตั้งอยู่ติดกับคูเมืองด้านนอก เรียงรายรอบตัวเมืองสำหรับวัดบูรพาราม กับวัดกลาง ๒ วัดนี้ ถือได้ว่าเป็นวัดที่อยู่ภายในกำแพงชั้นใน คือ อยู่ในใจกลางเมืองสุรินทร์วัดบูรพาราม เป็นวัดเก่าแก่เกิดขึ้นมาพร้อมกับตัวเมืองสุรินทร์ ตั้งแต่ครั้งยังเรียกว่า เมืองประทายสมันต์ หรือ เมืองไผทสมันต์ นั่นเทียวสันนิษฐานว่าวัดบูรพาราม สร้างขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี หรือสมัยต้นรัตนโกสินทร์ มีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ ปี เท่าๆ กับอายุของเมืองสุรินทร์ตามตำนานของเมืองสุรินทร์เล่าขานกันมาว่า เมื่อ พระยาสุรินทร์ภักดี ศรีณรงค์จางวาง (เชียงปุม) ได้ตำแหน่ง จางวางเมืองประทายสมันต์ ก็เริ่มทำนุบำรุงบ้านเมือง ด้วยการ "ฝึกฟื้นใจเมือง" ตามธรรมเนียมการพัฒนาบ้านเมืองของไทยที่นิยมสืบทอดกันมาแต่โบราณคือ ส่งเสริมการพระศาสนาให้เจริญ ควบคู่กับการบำรุง "กายเมือง" หรือพัฒนาด้านวัตถุให้เจริญควบคู่ไปด้วยกันวัดบูรพาราม ได้รับการปลูกสร้างขึ้นที่ใจกลางเมืองพอดี จึงเป็นวัดที่ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองชั้นในเนื่องจากวัดแห่งนี้สร้างขึ้นมานาน สภาพจึงชำรุดทรุดโทรม ทางคณะสงฆ์มณฑลนครราชสีมา มีความประสงค์ที่จะบูรณะขึ้นใหม่ และสถาปนาเป็น วัดธรรมยุตแห่งแรกในจังหวัดสุรินทร์ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๖เมื่อหลวงปู่ดูลย์ ได้รับบัญชาจากท่านเจ้าคณะมณฑล ให้มาดูแลบูรณะวัดบูรพาราม ท่านจึงรับภาระนี้ด้วยความเต็มใจหลวงปู่ดูลย์จึงงดกิจด้านออกธุดงค์ และพำนักประจำที่วัดบูรพารามนี้ ติดต่อกันตลอดมาตราบเท่าถึงวันมรณภาพของท่าน ซึ่งท่านอยู่ประจำที่วัดแห่งนี้ รวมเวลาทั้งสิ้น ๕๐ ปี



                                                  พระประธานในพระอุโบสถวัดบูรพาราม
วัดบูรพาราม ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520


                                                   สถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระชีว์
1. เป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระชีว์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 4 ศอก  หลวงพ่อพระชีว์หรือหลวงพ่อประจีองค์นี้ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด คาดว่าสร้างขึ้นมาพร้อมกับวัดบูรพาราม นับเป็นปูชนียวัตถ6ชาวสุรินทร์เคารพบูชา ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูง สุดของเมืองสุรินทร์
2.พระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดุลย์ อตุโล) เคยประจำอยู่ ณ วัดบูรพาราม ตั้งแต่ พ.ศ. 2477 จนกระทั่งมรณภาพ พ.ศ. 2526 ชื่อเสียงและเกียรติคุณของท่านแผ่ไพศาลไปทั่วสารทิศ ในหมู่ผู้ปฏิบัติธรรมสายพระกัมมัฏฐาน ทั้งพระภิกษุและฆราวาสให้การยอมรับว่า หลวงปู่ดุลย์ อตุโล เป็นองค์เดียวที่มีความรู้ลึกซึ้งในเรื่องของจิต จนกระทั่งได้รับสมญาว่าเป็นบิดาแห่งภาวนาจิต ซึ่งหวัดสุรินทร์ ชาวสุรินทร์ และวัดบูรพาราม ได้จัดสร้างพิิพิธภัณฑ์หลวงปู่ดุลย์ไว้ให้ประชาชนได้เข้าชม บริเวณข้างพระอุโบสถ ด้านทิศเหนือด้วย


                                                        พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ดุลย์
          มองไปจากด้านนอกของหวัดจะเป็นหลังคาที่เป็นสถาปัตย์กรรมแปลกตา ทันสมัย เหมือนหลังคาทรงไทยประยุกต์ นั่งรถผ่านก็มองด้วยความสงสัย แต่ไม่ยอมเข้าไปดู มีระยะหลังที่เที่ยวบ่อยๆ นี่เองที่เริ่มได้เข้าไปชมเพิ่มเติมอีกเล้กน้อยครับ สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่เกี่ยวกับหลวงปู่ดุลย์ คือ เจดีย์ที่สร้างขึ้น ณ บริเวณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ดุลย์ ที่เขาสวาย


รูปหุ่นจำลองหลวงปู่ซึ่งอยู่ที่พิพิธพันธ์


ธรรมคำสอนที่ลึกซึ่งของหลวงปู่



ผู้จัดทำ  1. นางสาวกัลยา  อินทร์ตา  รหัส 53125460302
               2. นางสาวเด่นนภา  แก่นเมือง  รหัส  53125460326
                       คอมพิวเตอร์ธุรกิจ  ห้อง 3




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น